วันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน 65 ควันหลงจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่ง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ไปแบบสุดระทึก 2-1 ลูกปิดเกมโดย การ์นาโช
เกมนี้ แมนยูฯ นำก่อน 1-0 จาก คริสเตียน อีริคเซน นาทีที่ 14 ต่อจากนั้นครึ่งหลัง นาทีที่ 64 ฟูแลม ตีเสมอเป็น 1-1 จาก แดเนียล เจมส์ อดีตแข้งผีแดง และเกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ในตอนทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 แมนยูฯ มาได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะที่ อีริคเซน จ่ายบอลทะลุไปให้ อเลฮานโดร การ์นาโช ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง สปีดไปยิงตุงตาข่าย คว้า 3 คะแนนสำคัญได้เสร็จ
การ์นาโช ยิงนาทีทดเจ็บ แมนยู บุกเฉือน ฟูแลม พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยแบบเฉือนหวิว นาที 93 โดยแผงหน้าวัย 18 อเลฮานโดร การ์นาโช
วันที่ 13 พ.ย. 2565 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟูแล่ม เปิดสนามเครเวนคอตเทจ รับการมาเยือนของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเกมสุดท้ายประจำสัปดาห์ ก่อนที่ทั้งลีกจะพัก และไปสู่ตอนฟุตบอลโลก 2022
เกมนี้ฟูแล่มไม่มีแผงหน้าตัวเก่ง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่ยังคงมีอาการเจ็บ และ แฮร์ริสัน รีด กองกลางที่ติดโทษแบน
ส่วนปีศาจแดงเกมนี้นำทัพมาโดย บรูโน แฟร์นันเดส ที่พ้นโทษแบน และได้ อองโธนี มาร์ซียาล กลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนคริสเตียโน โรนัลโด และเจดอน ซานโช ไม่มีชื่อเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วย
เกมเริ่มมาได้ไม่นาน โอกาสยิงคราวแรกเป็นของเจ้าบ้านฟูแล่ม คาร์ลอส วินิซิอุส ยิงไปแฉลบไทเรล มาลาเซีย ทำให้ดาบิด เด เคอา จะต้องออกแรงเซฟตั้งแต่นาทีที่ 5
ต่อจากนั้นยูไนเต็ดก็ได้ลุ้นบ้างจากลูกขลุกขลิกของมาร์ซิยาล และแบร์นด์ เลโน ต้องเซฟเหมือนกันในนาทีที่ 8 เป็นตอน 10 นาทีแรกที่ทั้งคู่ต่างไล่เพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง
หลังต่อจากนั้นไม่นาน ผู้มาเยือนก็ออกนำ จากจังหวะที่ฟูแล่มเสียบอลขณะขึ้นเกมกลางสนาม ด้วยการสกัดที่แม่นของ คาเซมิโร
อีริกเซนซัดลูกแรก
ยูไนเต็ดสวนกลับเร็วทันที แฟร์นันเดสยิงไปแฉลบ อิสซา ดิย็อป กองหลังฟูแล่ม และ คริสเตียน อีริกเซน นักฟุตบอลชุดสู้ศึกบอลโลกชาวเดนมาร์ก ที่วิ่งมาเหยียดเท้าส่งบอลเข้าประตูไป พาผีแดงขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 14
ก่อนผ่านตอน 30 นาทีแรก ยูไนเต็ดเกือบจะได้บวกประตูที่ 2 จากการประสานงานกันของมาร์คัส แรชฟอร์ด แฟร์นันเดส และจบด้วยมาร์กซิยาล หากแม้บอลลอดขาแต่ไม่แรงพอ เลโนก็เลยตามมาคว้าเอาไว้ได้
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ยูไนเต็ดคลาดโอกาสทองนำห่างอีกทีหนึ่ง แฟร์นันเดสที่ส่งให้อีริคเซน ได้ยิงจ่อๆในกรอบจุดโทษ แต่บอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดายในช่วงทดเวลา ทำให้สกอร์ยังคงเป็น 1-0
เริ่มครึ่งเวลาหลังได้แค่ 3 นาที ผู้มาเยือนก็ได้โอกาสกดประตูที่ 2 อีกที เป็นแอนโธนี่ อีแลงก้า ได้หลุดเข้าไปยิง แต่ก็ยังไม่ผ่านมือแบร์นด์ เลโน่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซ้ำดาบสอง แต่ฟูแล่มก็ยังช่วยเหลือกันสกัดเอาไว้ได้
หลังต่อจากนั้นเป็นตอนที่ฟูแล่มได้เดินเกมบุกอย่างต่อเนื่อง ในนาทีที่ 52 คาร์ลอส วินิซิอุส ได้ยิงเน้นๆบนเส้นกรอบหกหลา และในจังหวะเตะมุมต่อเนื่องกัน เป็นทิม รีม ที่ได้โหม่งจ่อๆหน้าปากประตู แต่เป็นดาบิด เด เคอา ที่โชว์เชฟอีกทั้ง 2 จังหวะไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ยูไนเต็ดยังไม่เสียประตูตีเสมอ
ยูไนเต็ดเริ่มตกเป็นรอง เ เทน ฮาก ไม่อยู่เฉย รีบส่ง สก็อตต์ แมคโทมิเนย์ ลงมาในนาทีที่ 55 เพื่อเพิ่มแดนกลาง แทน แอนโธนี อีลังกา ด้านฟูแล่ม มาร์โก ซิลวา ก็ขยับเหมือนกัน ส่งแดเนียล เจมส์ อดีตนักฟุตบอลผีแดง ลงมาแทนแฮร์รี่ วิลสัน ในนาทีที่ 59
ลินญา ที่ได้ตีลังกาจักรยานอากาศยิง แต่ยังเอาชนะดาบิด เด เคอา ไม่ได้
เกมไปสู่ตอน 10 นาทีสุดท้าย ยูไนเต็ดคลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย ชอว์บรรจงวางให้แม็คโทมิเนย์ ได้โหม่งโล่งๆหน้าปากประตู แต่บอลลอยข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้นในนาทีที่ 83
เด็ก18 กลับเกมนาทีทดเจ็บ
เกมทำท่าจะจบด้วยผลเสมอ แต่นาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาเจ็บ เป็นเจ้าหนู อเลฮานโดร การ์นาโช วัย 18 ปี ที่วิ่งแซงกองหลังฟูแลม รับบอลจากอีริกเซน เข้าไปยิงสวนตัวเลโน่ พาผีแดงขึ้นนำ 2-1 และเก็บ 3 แต้มได้อย่างปาฏิหาริย์ ในนาทีที่ 93
“เทน ฮาก” ชม “การ์นาโช” แข้งพรสวรรค์หลังซัดชัยดับเจ้าสัว
เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกปากชม อเลฮานโดร การ์นาโช ปีกดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ คือจอมบุกพรสวรรค์ตัวจริง หลังสวมบทซูเปอร์ซับซัดประตูชัยในตอนทดเจ็บช่วยให้ “ผีแดง” บุกไปเฉือน ฟูแลม ลงได้จวนเจียน 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำท่าจะต้องแบ่งแต้มกับ ฟูแลม หลังสกอร์ยังเจ๊ากันอยู่ 1-1 หลังเกมที่ คราเวน คอตเทจ ดำเนินมาจนถึงครบ 90 นาที จนถึงตอนทดเจ็บนาทีที่ 90+3 การ์นาโช ที่ได้บอลทางฝั่งซ้ายของสนามก็เลยทำชิ่งกับ คริสเตียน อีริคเซน ก่อนที่จะหลุดเข้าไปปาดบอลผ่านมือ แบรนด์ เลโน นายทวารเจ้าสัวน้อยเข้าไปอย่างสุดคลาสสิก และแปลงเป็นประตูชัยให้ เรด เดวิลส์ แซงเข้าวินได้อย่างหวุดหวิด 2-1
เทน ฮาก บอกว่า “อเลฮานโดร การ์นาโช เล่นได้ดีภายใต้ความกดดัน เขาถูกส่งลงสนาม และเล่นได้ดีเหมือนที่ทำได้เมื่อวันพฤหัสบดี (ในคาราบาว คัพ) เรารู้ว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะส่งเขาลงไป แต่คุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า เขาจะเปลี่ยนเกมได้ขนาดนี้ แต่เขาทำได้”
“นี่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่นักเตะพรสวรรค์ตัวจริงสามารถทำได้ ยังมีหนทางอีกยาวไกลสำหรับเขา เขาจะต้องไม่หลงระเริงไปเสียก่อน ช่วงหยุดพัก 4 สัปดาห์ต่อจากนี้ถือว่า อันตรายสำหรับเขา เพราะเขากำลังมีโมเมนตัม เรามารอดูกันว่า เขาจะกลับมาได้ดีแค่ไหน” กุนซือชาวดัตช์ ทิ้งท้าย
สถิติส่วนตัวของ การ์นาโช ในเกมนี้
- ลงเล่น 18 นาที
- สัมผัสบอล 9 ครั้ง
- ผ่านบอลสำเร็จ 5/5 ครั้ง
- โอกาสยิง 1 ครั้ง
- ทำ 1 ประตู